วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

[Review] ร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง@เชียงใหม่ อาหารไม่เน้น เน้นบรรยากาศ

สวัสดีค่า ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
ชื่อ บี ค่ะ อายุ 24 ปี ( ณ วันที่เขียนบล็อก) เรียกพี่เรียกน้องได้สบายเลย อิอิ
เป็นผู้หญิงธรรมดา เหมือนคนอื่นๆเลย รักสวยรักงาม รักกิน รักท่องเที่ยว 

ชั่งใจอยู่นานว่าจะเขียนบล็อกดีไหม สมัครบล็อกมาตั้งแต่ปี 53 ฮ่าๆๆ ตอนนี้ปี 59 แล้วนะหล่อน 
ก็เลยได้ฤกษ์ เขียน
เนื่องจากช่วงปีใหม่ได้ไปเที่ยวเหนือมา รู้สึกประทับใจมาก จากสาวอีสานผู้อยู่ในเมือง ที่ไม่ได้รายล้อมด้วยธรรมชาติ 
พอได้มีโอกาสไปเที่ยว แหล่งธรรมชาติ แล้วตื่นตาตื่นใจมั่ก ๆๆ

ประกอบกับต้องการพัฒนาฝีมือ การถ่ายภาพ ที่มีอยู่บ้าง แต่ไม่มาก หุหุ (หรือไม่มีเลยก็ว่าได้)
ต้องบอกก่อนว่า การถ่ายภาพของบีนั้น "เน้นสวย" ไม่เน้นศิลป์ ใดๆ 

แค่ตัวเองมองว่า "สวย" เป็นพอ  คนอื่นมองยังไงอีกเรื่องเนาะ อิอิ

พล่ามมาเยอะ....ไปเริ่มกันเลย !!

วันแรกที่ได้ไปเหยียบเชียงใหม่ นั่งเครื่องไปค่ะ 1 ชม. แต่เหมือนนานมากมาย พอไปถึงช่วงกลางดึก
ก็กลับเข้าที่พัก นอนออมแรง รอวันถัดไป...

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง วันนี้เลยจะมารีวิวร้าน ดีๆ บรรยากาศโรแมนติก ในเชียงใหม่
นั่นก็คือ ร้าน "ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง" 

ตอนแรกที่ฟังจากชื่อ ไม่ได้คาดหวังอะไร คิดว่าเป็นร้านอาหารพื้นเมืองธรรมดา
ตอนแรกที่ไปร้าน ร้านปิด เพราะไปเช้าเกิน ซึ่งความจริง ร้านจะเปิด 11.00 น. เป็นต้นไป...

พอเราไปในเวลาร้านปิด คือมันไม่ใช่เลย พอเข้าไป เป็นมืดๆ อึมครึมๆ ใจก็ไม่อยากเข้าละ...
แต่เอาวะ รอหน่อยละกัน เขาบอก ว่าต้องลองมา...
11.00 น. ร้านเปิด มาตรงเวลาเป๊ะเลย รถเยอะมากกกกกกกกกก (เพราะมาช่วงเทศกาล)

เข้าไปข้างใน คือร้านสวยมากกกกกกกก
แต่ลืมถ่ายด้านในห้องโถง
บีมานั่งกินที่ด้านนอกร้านค่ะ





^ บรรกาศด้านหน้าตัวเองค่ะ



^ บรรยากาศด้านข้างของบีค่ะ 
มีน้ำตกจำลองขนาดเล็กๆ เย็นสบายมาก



^ บรรกาศด้านข้างอีกฝั่งค่ะ
ภายในร้านมี บึงด้วย แต่ไม่ได้เดินไปดู แหะๆ



อาหารร้านนี้รอไม่ช้า ไม่เร็ว แต่เนื่องจากบรรยากาศดี และไม่ร้อน แม้จะไม่ได้อยู่ในห้องแอร์
ทำให้รู้สึกไม่ค่อยหิว (หรือเป็นอยู่คนเดียว)

มาดูรีวิวอาหารบ้าง
สั่งมาไม่เยอะ เพราะไม่ค่อยหิวค่ะ
จะเน้นเป็นผักๆนิดนึง ชอบกินผัก อิอิ

อันนี้เรียกว่า "ออเดิร์ฟ...อะไรสักอย่าง" (จำไม่ได้ 5555+)



"ผัดเห็ดหอม"


อาหารที่ถ่ายมามีแค่ 2 อย่างในกล้อง แต่สั่งมาเยอะกว่านี้ ลืมถ่าย อิอิ
เพราะอาหารมาปุ๊ป วิญญาณผีปอบเข้าสิง ...รีบจ้วงเลยทีเดียว

รสชาติอาหารก็โอเคนะ ไม่ได้อร่อยลืม หรือแย่มาก รสชาติกลางๆ
อาจจะเพราะคนเหนือเขาไม่ชอบรสจัดหรือเปล่าไม่แน่ใจ
 แต่สำหรับบีสายเลือดอีสาน มันยังไม่แซ่บ ถึงทรวง... หุหุ


หลังจากกินอิ่มแล้วก็ยังไม่ยอมลุกไปไหนค่ะ 
ขอดื่มด่ำกับบรรยากาศก่อน เพราะชอบมากกกกกก
อากาศเย็นสบายมาก วิวสวย โอ้เย !!
โอ๊ยยย เริ่ดดดด




บรรกาศรอบๆและภายในร้าน จะปลูกดอกไม้เมืองหนาว สวยๆไว้ ให้ลูกค้าได้เที่ยวชม
-ก่อนทางเข้าร้าน และก่อนจะถึงห้องน้ำค่ะ 
ดอกไม้สวยๆเต็มเลย
ตอนที่บีไป มีคนไปถ่ายรูปคู่กับดอกไม้เยอะมาก เลยทำให้ไม่ได้ถ่ายรูปเต็มที่เท่าไร
แต่เท่าที่เก็บภาพมาได้ ก็สวยมากเลยนะ

ไปดูกันเลย....!!!










เหนแบบโดยรวมกันบ้างแล้ว ลองดูแบบ Close-up บ้างดีกว่า 






เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับบรรยากาศร้านนี้
สวย รื่นรมย์ ผ่อนคลายจริงๆค่ะ

แล้วจุดที่พีคกว่านั้นคือ มุม "ห้องน้ำ" ค่ะ
แปลก เก๋ ไก๋ มีสไตล์ มากๆ เหมือนอยู่ในป่า 
แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น
เสียดายไม่ได้หยิบกล้องเข้าไปถ่ายรูปด้วย แหะๆ


ถ้าใครแวะไปเชียงใหม่ อย่าลืมแวะไปที่ร้าน ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง@เชียงใหม่
นะคะ 


สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน


พบกันใหม่บทความหน้าค่าาา ^^

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

{{ REVIEW }} The Face Shop ; Aloe JEJU 99% Fresh Soothing Gel ใช้แล้วดี ใช้แล้วได้ ใช้แล้วโดน!

สวัสดีค่ะ วันนี้บีจะมารีวิวเจลว่านหางจรเข้ค่ะ
หลายคนคงจะเคยได้ยินเจลว่านหางจรเข้มาบ้าง ช่วงหลังๆนี่ฮิตกันมาก
ขายกันเกลื่อนกลาดมากมายตามท้องตลาด

บีก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการใช้เจลว่านหางจรเข้ค่ะ 
ใช้มาตลอด 2 ปี 
ใช้มาหลายยี่ห้อมาก
แต่อยู่ห้อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ตอนนี้ก็คือ เจลว่านหางจรเข้ของ The Face Shop รุ่นนี้ค่ะ

ด้านหน้า


ด้านหลัง


ด้านข้าง





แพ็คเกจ : เหมือนเจลว่านหางจรเข้ทั่วไปเลยค่ะ ต้องใช้มือจ้วงเนื้อเจลขึ้นมา 5555
กลิ่น : หอมอ่อนๆ ละมุนละไมดีค่ะ
การซึมเข้าผิวหน้า : ค่อนข้างช้า
ราคา : ซื้อจาก Shop ค่ะ ลด 20% ประมาณ 100 กว่าบาท (ราคาน่ากรีดร้องมากกก...สอยสิคะรออะไร)


เนื้อเจล มีลักษณะใสๆ ไม่มีสีค่ะ
เมื่อลูบแล้วให้อารมณ์ Soothing ตามที่ตัวผลิตภัณฑ์เคลมไว้
ฟีลจะเย็นๆ ฟินๆ

ตัวเจลฯนี้บีจะใช้ทากับหน้า ซึ่งจริงๆคุณสมบัติของเจลว่านหางจระเข้จะทำได้หลายอย่างมาก แต่ขอข้ามไป อิอิ



คำแนะนำ :
1. เหมาะกับทุกสภาพผิว ทุกเพศ ทุกวัย 
2. ไม่มีทิ้งความมันบนผิวแต่อย่างใด
3.ใช้สำหรับภายนอก

เหตุผลที่ใช้ : 
** เกริ่นก่อนว่าที่ใช้เจลว่านหางจรเข้ เพราะเมื่อ 2 ปีก่อน บีหน้าแพ้ครีมในเน็ต สิวผิด สิวอักเสบ เห่อเต็มสตรีมเลยค่ะ แถมยังอกหักอีกด้วยแน่ะ ณ ตอนนั้นคือ ชีวิตแย่มากกกกกกกกกกก T_T
    ซึ่งครีมในเน็ตที่ว่านี้บีไม่รู้ ว่าทำไมตัวเองโชคร้ายแพ้ เพราะคนอื่นที่ใช้ไม่แพ้นะ ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังขายดิบขายดีอยู่

** หลังจากหน้าแพ้ครีม สิวเห่อ แถมหน้ายังลอก บีเลยเลือกที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายผิวหน้า 
ใช้มาเรื่อยๆ จนมาได้ยินว่าเจลว่านหางจระเข้ดี ช่วยฟิ้นฟูผิว ใช้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ก็เลยลองสักหน่อย ปรากฏว่าติดใจเลยจ้า ... ^___^

** จริงๆบีลองใช้เจลฯมาหลายยี่ห้อเหมือนกันนะ ซึ่งคุณสมัติก็คล้ายๆกัน มีข้อดีข้อเสีย จนมาเจอแบรนด์นี้ค่ะ  ใช้มาจนเกือบจะหมดกระปุก ประมาณ 3-4 เดือนแล้วค่ะ
** ใช้แล้วอยากบอกว่า "รัก" มากกกกก 


ทีนี้มาพูดถึงข้อดี-ข้อเสียของตัว Product กันบ้างดีกว่า

ข้อดี :
1. ราคาถูกมากกกกกก 
2.เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้
3.ใช้แล้วไม่แพ้
4.ให้ความชุ่มชื้นดีมาก เมื่อก่อนเป็นคนหน้าแห้งขุย แต่ตอนนี้หน้าไม่แห้ง แต่งหน้าง่ายขึ้นมากๆๆค่ะพ่อแม่พี่น้อง
5.ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากแสงแดด และลดความแดงจากสิว
6.ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น สิวไม่เห่อ แต่ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้สิวลดลงเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ลองสิคะ แล้วคุณจะติดใจ ... ฮ่าๆๆ 


ข้อเสีย :
1.เจลตัวนี้ซึบซับลงสู่ผิวค่อนข้างช้าาาาาค่ะ ต้องใช้พัดลมเป่า+นวดหน้าวนๆ อยู่นานเลยทีเดียว
2.ไม่ช่วยในเรื่องขาวใสใดๆทั้งสิ้น ตรงนี้บางคนอาจไม่ชอบ แต่บีไม่ได้คาดหวังกับตรงนี้อยู่แล้วเนอะ
3.ไม่ค่อยช่วยเรื่องลดรอยสิวเท่าไหร่ ต้องใช้ผลิตตัวอื่นช่วยคู่กันไป
4.การตักเจลขึ้นมา อาจยากลำบากนิดหน่อยค่ะ


สรุปความคิดเห็นส่วนตัว : เจลว่านหางจระเข้ตัวนี้ เป็นผลิตภัณต์ตัวหนึ่งที่บีชอบมากๆ บีใช้แค่เจลว่านหางจระเข้นี้ ทาหน้าก่อนแต่งหน้าทุกวัน เพราะทำให้เมคอัพติดทนนาน จนใครเห็นก็ทัก ว่าทำไมหน้าแน่นจัง การบำรุงก็มีส่วนมากๆเลยค่ะ


เนื่องจากเจลตัวนี้ซึมเข้าผิวช้า จึงทำให้ผิวค่อนข้างชุ่มชื้นยาวนาน กว่าเจลฯยี่ห้ออื่นๆที่ใช้มา เพราะไม่มีแอลกอฮอลนั่นเอง (เดี๋ยววันหลังจะมารีวิว ว่าเคยใช้ตัวไหนมาบ้าง) และเวลาถูกับผิวหน้า คือ ไม่มีผงขุย ติดมากับมือ เหมือนบางยี่ห้อ

ในส่วนของ "ความขาว" บีแทบจะไม่ได้รู้สึกว่าเจลฯ ช่วยเลยค่ะ แต่จะให้ความชุ่มชื้นมากกว่า ซึ่งบีเน้นบำรุงทำให้ผิวแข็งแรง ไม่เน้นหน้าขาวเท่าไร

    ส่วนต่อไปของเสนอ สภาพหนังหน้าของตัวเองรูปล่าสุด หลังจากใช้เจลมาสักพัก สิวขึ้นน้อยมากกกกก ถ้าไม่นอนดึก ไม่เครียด ไม่เป็นวันนั้นของเดือน จะไม่เจอสิวเลยค่ะ อร๊ายยย ปลื้มมมมม ...

หน้าศพ เอ้ย หน้าสด ^^"
อาจจะหัวยุ่งไปหน่อยนะคะ เพราะเพิ่งตื่น หน้าไม่ได้ล้างเลย ฮ่าๆๆ


ขอฝากอีกเรื่องคือ การใช้เจลนี้ ต้องใช้เวลานะคะ 
เมื่อก่อนบีหน้าพังมาก สำหรับคนไม่ค่อยเป็นสิวอย่างบี พอแพ้ครีม+ความเครียด ทำให้ไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไงกับหน้าตัวเอง เพราะเราก็ไม่ค่อยเป็นสิวอยู่แล้ว....

แต่พอเป็นสิวแล้วหันมาใช้เจล ลองมาหลายยี่ห้อ หน้าถึงค่อยๆแข็งแรงขึ้นมา ใช้เวลาเป็นปีๆ 
เพราะฉะนั้น ถ้าใครใช้แล้ว ใช้ไม่กี่เดือนแล้วบ่นๆ ว่าไม่ดี อันนี้บีก็ต้องขอร้องว่า อดทนหน่อยน๊า.... อีกนิดนึง
ดีกว่าหน้าใสแป๊ปๆ แล้วกลับไปพังนะจ๊ะ 
สุดท้ายนี้ ... บีบอกเลยค่ะว่า "ผิวหน้าดี ดีกว่าผิวหน้าขาว"




เลิฟ ยู มั๊ววว...